หลายๆ คนคงพอจำกันได้กับโครงการ "เที่ยวทั่วไทย สุขใจเสริมมงคล" ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นเมื่อปี 2550 และปี 2551 ที่ผ่านมา โดยปีนี้ ททท. สานต่อโครงการขึ้นอีกครั้งภายใต้ชื่อ "เที่ยวทั่วไทย สุขใจเสริมมงคล กับ อ. คฑา" เพื่อต่อยอดกิจกรรมในช่วงภาวะเศรษฐกิจซบ สร้างทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีและประวัติศาสตร์ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสถานที่ Unseen in Thailand
การเดินทางเสริมมงคลในครั้งนี้มีด้วยกัน 4 เส้นทาง เริ่มกันที่ กรุงเทพฯ-ลำพูน-ลำปาง-กรุงเทพฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องปูชนียสถานที่สำคัญๆ อย่าง วัดพระบาทตากผ้า ,วัดที่สร้างจากศิลาแลงอย่าง วัดพระบาทห้วยต้ม และ วัดที่สวยงามอย่างวัดพระเจ้าสะเลียมหวาน และพระรอดวัดมหาวัน หนึ่งในเบญจภาคีฝ่ายบุญฤทธิ์ที่มีพระสมเด็จวัดระฆังเป็นประธานร่วมกับพระพิมพ์อื่นๆ 3 พิมพ์ คือ พระกำแพงซุ้มกอ (หรือพระกำแพงลีลาวัดขนุน), พระผงสุพรรณ และพระนางพญาพิษณุโลก
ส่วนใน จ.ลำปาง แวะตั้งแต่วัดโบราณอย่าง วัดพระธาตุจอมปิง , วัดพระธาตุลำปางหลวง ,วัดไชยมงคล และ วัดปงสนุก ที่เชื่อกันว่าสร้างร่วมสมัย ในพระเจ้าอนันตยศขณะเสด็จมาทรงสร้างเมืองเขลางค์นคร
เส้นทางที่ 2 จะเป็นสายตะวันออก กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-จันทบุรี-กรุงเทพฯ หลายคนคงคุ้นเคยกับวัดใน จ.ฉะเชิงเทรามาบ้างแล้ว อาทิ วัดพระธาตุวาโย (วัดห้วยน้ำทรัพย์) ที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงหน้าวัด ภายในวัดมีเจดีย์ทรงระฆังที่มีการประดับตกแต่งได้สวยสดงดงาม,วัดโพธิ์บางคล้า ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินเป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาและสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ที่หาดูได้ยากในยุคปัจจุบัน หรือจะเป็น วัดสัมปทวนนอก ที่สร้างขึ้นปลายสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งมีจุดเด่นตรงลายปูนปั้นอยู่บนชายคาระเบียงโบสถ์ และ วัดจีนประชาสโมสร หรือ วัดเล่งฮกยี่ ซึ่งเป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน
สำหรับ จ.จันทบุรี โปรแกรมนี้จะพาทุกคนแวะตั้งแต่ วัดทองทั่ว , วัดตะกาดเง้า , วัดเขตร์นาบุญญาราม, วัดพลับพลา , วัดพลับ และ วัดมังกรบุปผาราม หรือ วัดเล่งฮัวยี่ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในการปฏิบัติธรรมเป็นพิเศษ
มาถึงเส้นทางสายที่ 3 กรุงเทพฯ - สุโขทัย - กำแพงเพชร - กรุงเทพฯ เริ่มกันที่ วัดช้างล้อม และ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งต่างก็เป็นโบราณสถานที่สำคัญ จากนั้นจึงไปกราบไหว้นมัสการ หลวงพ่อโตวิหารลอย และ หลวงพ่อศิลา ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกขโมยไปและได้มีการนำไปประมูลขายไกลถึงประเทศอังกฤษ แต่ภายหลังสามารถติดตามกลับคืนมาได้ และนำมาประดิษฐานยัง วัดทุ่งเสลี่ยม จนถึงทุกวันนี้
สำหรับ ทริปเสริมมงคลใน จ.กำแพงเพชร พุทธศาสนิกชนทั้งหลายจะได้ไหว้พระทำบุญกันตั้งแต่ วัดพระบรมธาตุ ,วัดช้างรอบ , วัดประสาท ที่มีโบราณวัตถุมากมายและเป็นศิลปะโบราณอายุนับร้อยปีอันคุณค่าแก่การอนุรักษ์และศึกษา จากนั้นต่อด้วย วัดพระแก้ว,วัดเจดีย์กลางทุ่ง ที่มีสถาปัตยกรรมและการจัดแผนผังของวัดตามแบบยุคสุโขทัย และ วัดซุ้มกอ เป็นวัดปิดท้ายปริป
สุดท้ายลงใต้ไปกับเส้นทางสายที่ 4 กรุงเทพฯ-สตูล-ตรัง-กรุงเทพฯ ชาวเมืองสตูลส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามแต่ก็ยังมี วัดชนาธิปเฉลิม ที่เป็นวัดแห่งแรกและเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวพุทธที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นมานานร่วม 100 กว่าปี จากนั้นจะพาคณะลูกทัวร์เยี่ยมชม มัสยิดกลาง จ.สตูล (มัสยิดมำบัง) , พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสตูล (คฤหาสน์กูเด็น) และ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านละงู
ส่วน จ. ตรัง มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น อนุสาวรีย์พระรัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ซึ่งอยู่บริเวณสวนสาธารณะห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 1 กม. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำราชมงคล ที่ได้มีการวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำเค็มและสัตว์น้ำจืดไว้มากมาย
นอกจากนี้ก็ยังมี ศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ย,ศาลเจ้าท่ามกงเยี้ย และพระนอนทรงเครื่องโนราวัดภูเขาทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณปางปรินิพพาน สร้างในสมัยศรีวิชัย มีลักษณะเด่นคือ พระเศียรทรงเทริดโนราตามศิลปะของภาคใต้ ซึ่งชื่อกันว่า เทริดเป็นเครื่องประดับที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นของสูง ทั้งนี้กรมศิลปากรได้จดทะเบียนขึ้นเป็นโบราณสถานเรียบร้อยแล้ว
นับเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ ททท. เสิร์ฟให้นักเดินทางผู้ศรัทธาในพระศาสนาขนานแท้ เพื่อให้สมกับสโลแกนที่ว่า "เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก" สร้างคุณค่า ความภูมิใจที่ทุกคนจะได้ช่วยเศรษฐกิจของชาติได้อีกทางหนึ่ง
http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9520000041118 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น