วันที่ 18 เมษายน 2552 เวลา 00:00 น.
กำไล 'รวยเพิ่มพูน' หลวงพ่อวิน วัดบรมวงศ์ฯ
| | เสริมโชคลาภ-ค้าขายรุ่งเรือง-ร่ำรวยเงินทอง
"เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน" ฉบับฟันผ่าวิกฤติสู้ภัยเศรษฐกิจฉบับนี้ ขอนำท่านผู้อ่าน พบกับวัตถุมงคลที่ได้รับการกล่าวขวัญอย่างต่อ เนื่องจากประชาชนทั่วไปว่าศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ สมชื่อนำไปบูชาแล้วประสบความสำเร็จ นั่นคือ "กำไลรวยเพิ่มพูน"
"กำไลรวยเพิ่มพูน" จัดสร้างขึ้นโดย "พระเทพวรเวที" เจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิสรวราราม เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือ หลวงพ่อวิน โฆสิโต ปัจจุบันอายุ ๖๒ ปี ชื่อเดิม "วิน ศัตรูคร้าม" เป็นบุตรของ "นายจันทร์-นางยวง" เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ที่ ต.ไผ่ล้อม อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๓ มี.ค. พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง ๑๓ ปีเท่านั้น ที่วัดหนองกลาง ต.ไผ่ล้อม อ.ภาชี จ.พระนคร ศรีอยุธยา จนกระทั่งปีอุปสมบท เป็นพระเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ในวัดเดียวกันนั้น โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดโตนด ต.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งได้เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิสรวราราม หมู่ ๓ ต.สวนพริก จ.พระนครศรีอยุธยา และได้รับการเลื่อนชั้นเป็นเจ้าคณะจังหวัด ในเวลาต่อมา
ส่วน "วัดบรมวงศ์อิสรวรารามวรวิหาร" หรือ วัดทะเลหญ้า หรือวัดทำเลหญ้า ในอดีต สร้างขึ้นโดย "สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์" ซึ่งคือ "เจ้ากรมพระคชบาล" เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา โดยตามความใน "พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา" ปรากฏว่าในแผ่นดิน "สมเด็จพระมหาธรรมราชา" ภายหลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๓๑๐ วัดนี้มิได้ถูกทำลายแต่อย่างใด และยังคงมีพระสงฆ์จำพรรษาเรื่อยมา
กระทั่งถึงสมัย "กรุงรัตนโกสินทร์" เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙ ช่วงต้น "รัชกาลที่ ๕" พระองค์ทรง มีพระราชศรัทธาบริจาคทรัพย์ บูรณปฏิสังขรณ์ วัดนี้ใหม่ทั้งหมดและทรงรับไว้ในพระราชูปถัมภ์เป็น "พระอารามหลวงรัชกาลที่ ๕" พร้อมพระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดบรมวงศ์อิสรวรารามวรวิหาร" โดยมี "พระพุทธรูปปางสมาธิ" หล่อด้วยโลหะลงรักปิดทองหน้าตักกว้าง ๑ เมตร สูงตลอด ยอดพระรัศมี ๑.๖๐ เมตร ประดิษฐานเหนือแท่นหินอ่อนภายใต้ซุ้มเรือนแก้วทำเป็นรูป "พรหมมาลา" มีพระอัครสาวก เบื้องขวา คือ "พระสารีบุตร" เบื้องซ้าย คือ "พระโมคคัลลานะ" ในลักษณะนั่งคุกเข่าหล่อด้วยโลหะลงรักปิดทองทั้ง ๒ องค์ ขนาดกว้าง ๔๕ ซม. สูง ๙๐ ซม. เป็น "พระประธาน" ในพระอุโบสถและติดกับพระอุโบสถมีพระบรมรูป "พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕" ประดิษฐาน ไว้ใน "พระวิหารตรีมุข"
หลวงพ่อวินเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่นิยมการสร้างเครื่องรางของขลังมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ บรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพศรัทธา ได้ขออนุญาตจัดสร้างกำไลข้อมือรุ่นรวยไว เพื่อนำรายได้ไปบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานภายในวัดบรมวงศ์อิสรวราราม กำไลข้อมือรุ่นรวยไว จึงนับเป็นวัตถุมงคลชิ้นแรกที่สร้างขึ้นโดยมีหลวงพ่อวินเป็นประธาน
กำไลรุ่นรวยไวได้รับความสนใจจากพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก สาเหตุที่ใช้ชื่อว่ารุ่นรวยไวนั้น มาจากหลวงพ่อรวย ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อวิน และคำว่าไว มาจากหลวงพ่อไว ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์ฯ องค์ก่อนหน้านั้นนั่นเอง ปรากฏว่ากำไลรุ่นนี้สร้างปาฏิหาริย์แก่ผู้บูชาอย่างมาก โดยเฉพาะด้านโชคลาภ และการค้าขาย จนเป็นที่กล่าวขวัญถึงในเวลาต่อมา
ต่อมาถึงปลายปี ๕๑ บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อวิน ได้ขออนุญาตจัดสร้างกำไลขึ้นอีกรุ่นหนึ่ง นั่นคือรุ่นรวยเพิ่มพูน เพื่อหารายได้ในการสร้าง ซ่อมแซมกุฏิ พระอุโบสถ
สาเหตุที่ตั้งชื่อว่ากำไลรุ่นรวยเพิ่มพูนนั้น มาจากการที่ ๓ พระเกจิอาจารย์ดังเมืองกรุงเก่า เป็นผู้อธิษฐานจิต ประกอบด้วย หลวงพ่อรวย วัดตะโก อ.ภาชี ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว และ หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ทั้งสามรูปล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ดังที่ประชาชนทั่วไปให้ความศรัทธา และมีความเชื่อมั่นในเรื่องของวัตถุมงคล
ดังนั้นกำไลรุ่นรวยเพิ่มพูนจึงมีใบหน้าของท่านทั้ง ๓ รูปปรากฏอยู่บนกำไล อีกทั้งก่อนหน้านั้นเกจิดังทั้งสามรูปยังได้เขียนจารอักขระเลขยันต์ ลงบนแผ่นทอง นาก เงิน ก่อนที่จะหล่อเป็นกำไล หลังจากได้กำไลเป็นรูปร่างออกมาแล้ว ก็จัดให้มีพิธี พุทธาภิเษก โดยนำกำไลทั้งหมดเข้าสู่พระอุโบสถ
ก่อนพิธีกรรมได้มีการบวงสรวงเทพยดาฟ้าดิน บรรพบุรุษแห่งทุ่งทะเลหญ้า เป็นเวลาเกือบ ๑ ชั่วโมง ซึ่งระหว่างพิธีบวงสรวงนั้นเอง ทุกคนที่มาร่วมงานต่างฮือฮา เมื่อบนท้องฟ้าปรากฏเป็นพระอาทิตย์ทรงกลด แผ่รัศมีออกมาอย่างสวยงาม จนกระทั่งเสร็จพิธีกรรมในช่วงเช้า
พิธีกรรมในช่วงบ่าย พระเกจิ ๔ รูปเจริญคาถามหานาคพุทธาภิเษก ซึ่งเป็นคาถาสำหรับการปลุกเสกที่อัญเชิญพระพุทธคุณของพระพุทธเจ้า จากนั้นได้ร่วมกันเพ่งอธิษฐานจิต พร้อมสวดคาถา นานถึง ๓ ยก หรือ ๑ ชั่วโมงเศษ ระหว่างนั้นเองพระเกจิที่มาร่วมปรกอีก ๑๑ รูป นอกเหนือจากหลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว และหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพนแล้ว ยังมีหลวงพ่อหวน วัดพุทไธศวรรย์ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม วัดพระขาว ซึ่งพิธีนี้พระเทพวรเวที ประธานในพิธีเป็นผู้จุดเทียนชัย และมีหลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน ซึ่งท่านเป็นพระเกจิที่แก่กล้าพรรษา เป็นผู้ดับเทียนชัย ซึ่งในการประกอบพิธีกรรมนี้เองใช้เวลานานกว่า ๑ ชั่วโมง เช่นกัน หลังเสร็จสิ้นพิธีกรรม ประชาชนที่มาร่วมงาน ต่างได้รับผ้ายันต์ที่นำเข้าร่วมในพิธีปลุกเสกครั้งนี้ไปอย่างถ้วนหน้า
ปัจจุบันกำไลรุ่นรวยเพิ่มพูน ที่ผ่านพิธี พุทธาภิเษกอย่างสมบูรณ์ ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาพ่อค้า แม่ค้า นักธุรกิจ เนื่องจากมีความเชื่อในชื่อของวัตถุมงคลชิ้นนี้ ว่าจะช่วยส่งเสริมให้การค้าขายดี โดยการจัดสร้างกำไล ก็เห็นว่าคำว่ากำไล พ้องเสียงกับคำว่ากำไร ที่หมายถึงการ ได้มา การที่มีชื่อของเกจิดังในรุ่นนี้ รวย เพิ่ม พูน ก็เป็นชื่อที่บ่งบอกถึงลาภ
ยิ่งกว่านั้น เป็นการจัดสร้างโดยหลวงพ่อวิน ซึ่งภาษาอังกฤษ คำว่าวิน แปลว่าชนะ ผู้คนที่มีความเชื่อในเรื่องชื่อจึงได้พากันเช่าบูชา ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็หวังให้การค้าขายดีขึ้น ซึ่งก็ตรงกับเจตนาของ ผู้สร้างที่ต้องการให้คนทุกคนมีกำลังใจในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี อีกทั้งยังได้มีส่วนร่วมกันทำบุญ นำเงินไปบูรณะซ่อมแซมวัด
หลวงพ่อวินมักจะบอกกับลูกศิษย์เสมอว่า การสร้างวัตถุมงคลนั้น ไม่อยากให้มองกันเป็นพุทธพาณิชย์ อยากให้เป็นสิ่งที่โน้มน้าวจิตใจให้มีกำลังใจ และมีความตั้งใจที่จะทำความดี เพื่อให้สิ่งที่ทำนั้นออกมาดีมากกว่า การสร้างกำไลรุ่นรวยเพิ่มพูน ยังเป็นการร่วมสนับสนุนโครงการอยุธยามหามงคล ไหว้พระ ๙ วัดด้วย เนื่องจากญาติโยมที่มาเที่ยววัด ส่วนใหญ่ก็ต้องการวัตถุมงคลของวัดเพื่อที่จะกลับไปเป็นที่ระลึก แต่จริง ๆ แล้วหลวงพ่อวินจะพูดถึง วัตรของสงฆ์มากกว่า พระสงฆ์ควรเป็นผู้เจริญในธรรม นำคำสั่งสอนพระพุทธเจ้ามาสั่งสอนให้คนได้รู้ และนำไปปฏิบัติ นำของดีเข้าไปไว้ในจิตใจ ไปไหนก็ติดตัวไปได้ทุกหนแห่ง.
สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล ข้อมูล-ภาพ/ อาราธนานัง รายงาน http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=72638&NewsType=2&Template=1 | |
Rediscover Hotmail®: Get e-mail storage that grows with you.
Check it out.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น