วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

สนนท.เปิดศูนย์รับแจ้งคนหาย ยันทหารใช้กระสุนจริง!เสื้อแดงอาจมีตายวันป่วนเมือง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 เมษายน 2552 14:02 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
น.ส.สุวลักษณ์ หลำอุบล กรรมการบริหารสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ร่วมกับเครือข่ายเดือนตุลา และเครือข่ายราษฎรนักเขียนศิลปินประชาธิปไตย แถลงข่าวจัดตั้งศูนย์รับเรื่องคนหาย ในเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง

สนนท.เปิดศูนย์รับแจ้งคนหาย วันแดงนรกป่วนเมือง ยันทหารใช้กระสุนจริง ฉะนั้นเสื้อแดงอาจมีตาย ร้องเรียนรัฐบาลประกาศยุบสภาอีกเหมือนเดิม
       
       วันนี้(15 เมย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)ร่วมกับเครือข่ายเดือนตุลา และเครือข่ายราษฎรนักเขียนศิลปินประชาธิปไตย จัดตั้งศูนย์รับเรื่องคนหาย ในเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2552 ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ
       
       นางสาว สุวลักษณ์ หลำอุบล กรรมการบริหาร สนนท. นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะอักษรศาสตร์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว หลักฐานจากรูปถ่าย คลิปวีดีโอและข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชนต่างประเทศ อาจมีความเป็นไปได้ว่า เจ้าหน้าที่ทหารใช้กำลังผลักดันผู้ชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายราย จึงได้ตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นเพื่อให้ญาติของผู้เสียหาย และผู้เสียชีวิต สามารถแจ้งข้อมูล หรือร้องเรียนเพื่อจะได้ทำการพิสูจน์และค้นหาความจริงต่อไป
       
       "รัฐบาลระบุว่ากระสุนปืนที่นำมาใช้เป็นของปลอม แต่เรามีภาพยืนยันว่ากระสุนที่นำมาใช้เป็นกระสุนจริง มีการเล็งปืนยิงใส่ผู้ชุมนุมจริง และนำศพออกไปเพื่อไม่ให้มีหลักฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ยอมรับ และปฏิเสธ เราจึงจัดให้มีศูนย์รับเรื่องเหล่านี้ เพื่อให้ญาติผู้ตายหรือผู้เสียหายมาแจ้งเรื่องร้องเรียนกับเราได้ โดยจะประสานงานกับมูลนิธิ 14 ตุลา เครือข่ายเดือนตุลา เครือข่ายราษฎรนักเขียนศิลปินประชาธิปไตย เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป
       

       นอกจากนี้ น.ส.สุวลักษณ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ในเบื้องต้นทราบข้อมูลว่ามีคนตายประมาณ 60 กว่าคน แต่ยังหาหลักฐานไม่ได้ จึงยังไม่กล้ายืนยัน โดยข้อมูลดังกล่าวได้จากการพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมาก ดังนั้นศูนย์ฯ จะเร่งหาหลักฐานมาพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ หากมีคนตายจากกรณีดังกล่าว จึงขอร้องเรียน ให้นายกรัฐมนตรี รัฐบาลประกาศยุบสภา หรือลาออก เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวโดยหลังจากนี้เตรียมจัดนิทรรศการภาพถ่ายและเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ เพื่อบันทึกเป็นประวิติศาสตร์ทางการเมืองเช่น พฤษภาทมิฬ 2535 รวมถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12-13 เม.ย.2552 นี้ด้วยโดยจะออกเผยแพร่ข้อมูลตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เริ่มที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
       

       " รัฐบาลพยายามปกปิดข้อเท็จจริง เราจะเห็นว่ามีแต่โฆษกรัฐบาลและโฆษกกองทัพบก ออกมายืนยันว่าไม่มีผู้เสียชีวิตและกระสุนใช้ของปลอม แต่ทำไมไม่มีใครตั้งคำถาม เพราะความจริงแล้วมีการกราดยิง มีผู้เสียชีวิต แล้วทหารได้แย่งศพคนตายขึ้นรถทหารนำศพออกไป ซึ่งเราไม่ทราบว่านำไปที่ไหนและทำลายหรือไม่ โดยเฉพาะการสลายการชุมนุมบริเวณแยกดินแดง และที่กระทรวงมหาดไทย " กรรมการบริหาร สนนท. ระบุ
       
       ด้านนางวิภา ดาวมณี จากเครือข่ายคนตุลา กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการทำงานของศูนย์รับเรื่องราวคนหายฯ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือพรรคการเมือง แต่เป็นเรื่องของมนุษยธรรม ในส่วนของศูนย์รับเรื่องราวคนหายฯ ตั้งใจจะรับเรื่องคนหาย และบาดเจ็บ ส่วนการทำงานของเครือข่ายเดือนตุลา จะเข้าไปมีส่วนในการชำระประวัติศาสตร์เหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งนี้จะมีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ จากมูลนิธิกระจกเงา เป็นที่ปรึกษาของศูนย์ ในการจัดทำฐานข้อมูล และประสานกับโรงพยาบาลต่างๆ ขอให้คนที่ไม่กล้าแสดงตัวว่าได้รับความรุนแรงออกมาแสดงตัวกับเรา โดยเรามีนิสิตนักศึกษาเป็นอาสาสมัครรับเรื่อง
       
       
ส่วนของการประสานงานต่อไป
       
ด้าน "นายชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ" ผู้ประสานงานศูนย์รับเรื่องราวคนหายฯ กล่าวว่า ทางศูนย์ จะตั้งโต๊ะรับเรื่องที่อนุสรณ์สถานตั้งแต่ 09..00-17.00 น ไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งสามารถแจ้งมาได้ทางเบอร์โทรศัพท์ 083-812-5659 หรืออีเมลล์ ontontmong@hotmail.com
       
       
-----------------------------
       อนึ่งการออกมาตั้งข้อสังเกตการณ์กับทางรัฐบาลอย่างเคร่งครัดและรัดกุมรวมไปถึงความพยายามเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายจากการยุติการชุมนุม ตลอดจนการตั้งศูนย์ร้องเรียนผู้สูญหายจากการยุติการก่อการจราจลในวันแดงเดือด ทั้งนี้ความพยายามดังกล่าวได้สอดคล้องกับจุดยืนของ ทางสนนท.ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา กับแถลงการณ์ "โค่นล้มอำมาตยา สถาปนาประชาธิปไตยให้สมบูรณ์" ซึ่งแถลงข่าวโดย นายอภิสิทธิ์ เหล่าลุมพุก รองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
       
       
ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
       

       เนื่องด้วยการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ของพี่น้องประชาชนในนามของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. ซึ่งได้ดำเนินการชุมนุมอย่างสันติวิธี มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2552 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้รัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ยุบสภาฯคืนอำนาจให้กับประชาชน พร้อมทั้งประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนในการโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตยที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยไทย
       
       
บัดนี้การบริหารงานของรัฐบาลก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะนำพาประเทศก้าวข้ามพ้นความยัดแย้งที่เกิดขึ้นมาได้ อีกทั้งไม่ได้นำพาประเทศไปสู่ความเป็น "ประชาธิปไตย" แต่อย่างใด กลับนำไปสู่ความเป็น "ประชาธิปตน" นี่คือสิ่งที่รัฐบาลไม่ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่าตนมีความซื่อสัตย์ต่อ "ระบอบประชาธิปไตย" ที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนแต่อย่างใด ทั้งยังมิได้พิสูจน์ถึงความจริงใจและใส่ใจในการแก้ไขปัญหาของประเทศ กลับเลือกปฏิบัติโดยการใช้สองมาตรฐานอยู่เสมอมา การบริหารเศรษฐกิจที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด การใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างล่าช้าจนเกินไปกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ได้ก่อ อาชญากรรมทางสังคมขึ้น
       
       สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)มีจุดยืนในการต่อต้านอำนาจนอกสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)มีจุดยืนในการต่อต้านอำนาจนอกระบบฯเสมอมา ด้วยมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยที่ อำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน ทั้งได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังดำเนินไปในสังคมอย่างใกล้ชิด จึงมีข้อเรียกร้องและความเห็นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้
       
       1. การที่รัฐบาลนำเสนอให้มีการปฏิรูปการเมืองโดยให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นตัวกลางนั้น เป็นเรื่องที่ตลก เนื่องด้วย ที่มาที่ไปไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนทั้งมีข้อกังขานานัปการ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไป รัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์มีทางเลือกทางเดียวเท่านั้นที่จะพิสูจน์ว่ามีความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยนั่นคือ การประกาศยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อให้ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้กำหนดอนาคตของตัวเอง
       
       2. จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในขณะนี้ได้พิสูจน์และยืนยันให้เห็นแล้วว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมและอำมาตยาธิปไตย มีกระบวนการอย่างเป็นระบบเพื่อขัดขวาง ทั้งยังมีการดำเนินการที่เป็นขบวนการอันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยไทยตลอดมาอย่างยาวนาน จนเชื่อได้ว่าระบอบอำมาตยาธิปไตยเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยได้อย่างสมเหตุสมผล
       
       3.รัฐบาลต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการชุมนุมอย่างสงบและสันติ ภายใต้หลักการประชาธิปไตย โดยห้ามรัฐบาลสกัดกั้นหรือใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมโดยเด็ดขาด...
       
       4.. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) เห็นด้วยกับหลักการของ นปช. และขอสนับสนุนการต่อสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตยระบบเลือกตั้งและระบบรัฐสภาฯ ที่เห็นและเคารพสิทธิทางการเมืองของประชาชนอันจะนำพาสังคมไทยไปสู่ความมีสิทธิและเสรีภาพอย่างเท่าเทียม
       
       ทั้งนี้ใช่เป็นเพียงความต้องของเราแต่เป็นความจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ของยุคสมัยที่จะต้องพัฒนาไป ไม่ว่าพลังอนุรักษ์นิยมใด ๆ ก็ไม่อาจขัดขวางเจตจำนงของประวัติศาสตร์สังคมมนุษย์ที่จะมีแต่ก้าวไปข้างหน้าสู่ชีวิตที่ดีกว่าของคนทุกผู้ทุกนาม
       
       ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน
       ขอคาราวะแด่ ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ วีระชนที่พลีชีพเพื่อต่อต้านอำนาจเผด็จการ
       
       
(นายอภิสิทธิ์ เหล่าลุมพุก)
       รองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยฝ่ายการเมือง
       รักษาการเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
       7 เมษายน 2552

       
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000042291

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/