วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

แก้ผิวดำ ! หลังสงกรานต์ ด้วย "ผลิตภัณฑ์รำข้าวถนอมผิว"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 เมษายน 2552 10:58 น.

ผลิตภัณฑ์ "รำข้าวเพื่อการถนอมผิว" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมการประดิษฐ์คิดค้นของนักศึกษาชั้นปี 1 ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักสูตรภาษาอังกฤษ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วนประกอบ

ทดลองวิธีการใช้


นักศึกษาผู้คิดค้นและรศ.ดร.ชาคริดา นุกูลกิจ อาจารย์ที่ปรึกษา (คนกลาง)

มจธ.คิดค้นนวัตกรรมใหม่ของการถนอมผิว ด้วย "รำข้าว" ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน B,E สูง ชะลอความเหี่ยวย่น ผิวขาวเนียนสวยได้ดั่งใจโดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์พร้อมพัฒนาต่อยิดไปยังธุรกิจ SME ได้อีกด้วย
       
       หลังจากเทศกาลสงกรานต์ผ่านพ้นไปหมาดๆ หลายคนคงประสบปัญหาผิวเสีย หมองคล้ำ ผิวหน้าลอก แตกง่าย จะทำอย่างไรดีให้ผิวกลับมาสวยดังเดิม
       
       วันนี้ Life On Campus มีผลิตภัณฑ์รำข้าวเพื่อการถนอมผิว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมการประดิษฐ์คิดค้นของนักศึกษาชั้นปี 1 ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักสูตรภาษาอังกฤษ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งประกอบด้วย นางสาวธนพร แสงอินทร์ , นางสาวสุธาสิณี ศรีเงินงาม , นางสาวปัญจพร ตรวจมรคา และนางสาวอรจิรา รัตนไตรมงคล โดยมีผศ.ดร.ชาคริตา นุกูลกิจ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
       
       "รำข้าว" นั้นมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวเนื่องจากประกอบด้วย สารอาหารที่สำคัญ คือไฟโตสเตอรอล แกมมาโอรีซานอล ไขมัน โดยเฉพาะสควาลีนและวิตามินอี ซึ่งอยู่ในรูปที่สามารถใช้งานได้ทันที รวมทั้งเส้นใยผลิตภัณฑ์ขัดผิวให้อ่อนนุ่มและชุ่มชื่น
       
       ธนพร แสงอินทร์ ตัวแทนกลุ่มอธิบายถึงผลงานการประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์ถนอมผิวชนิดนี้ว่า เป็นผลงานที่มาจาการต่อยอดของการเป็นนักคิดค้นนักประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ที่เคยได้นำมาแสดงที่งานวันนักประดิษฐ์ปี 2551 ที่ผ่านมา จึงนำมาต่อยอดความคิดที่จะส่งเข้าแสดงอีกครั้ง
       
       "พวกเราช่วยกันคิดว่าสิ่งที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนั้นจะนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง รำข้าวเพื่อการถนอมผิว จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นมาจากการนำรำข้าว ดินสอพอง ขมิ้น ไพล และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ มาผสมให้เข้ากัน เพื่อใช้สำหรับขัดผิว ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ต้องการนำภูมิปัญญาไทยพื้นบ้านที่มีอยู่นั้นมาใช้ให้เป็นประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด จึงได้ทำการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล และนำมาทดลอง จนได้ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ขึ้นมา
       
       โดยเริ่มต้นจากการจัดเก็บที่ถูกต้อง เพื่อให้รำข้าวคงสภาพรักษาสารอาหารที่มีคุณค่าต่อสุขภาพและไม่มีส่วนของเอ็นไซม์ที่กระตุ้นการเสื่อมสภาพของรำข้าว นอกจากนี้ขนาดของอนุภาคของรำข้าวที่เหมาะสมสำหรับขัดผิวจะต้องไม่หยาบจนเกินไป"

       
       ทั้งนี้ผู้วิจัยจึงคิดค้นกระบวนการจัดเก็บ การกำจัดเอ็นไซม์ การคัดแยกขนาดและบดย่อยของขนาดรำข้าว เพื่อให้ได้รำข้าวที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้ขัดผิว โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจสปา หรือธุรกิจ SME ต่อไปได้
       
       สุธาสิณี ศรีเงินงาม อธิบายเสริมถึงรูปแบบของผลิตภัณฑ์รำข้าว เพื่อการถนอมผิว ซึ่งมีด้วยกัน 2 แบบคือ ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง และผิวผสม
       
       "ส่วนผสมของรำข้าวถนอมผิว สำหรับผิวแห้ง เราจะใช้ส่วนประกอบโดยการนำรำข้าว ดินสอพอง ขมิ้น ไพล มาผสมกับน้ำมะพร้าวบริสุทธิ์ คนให้เข้ากันและใช้ทาได้ทันที ส่วนสำหรับผิวผสม หรือผิวมัน สามารถใช้รำข้าว ดินสอพอง ขมิ้นและไพลคนให้เข้ากันและอาจจะผสมน้ำสะอาดสักหน่อยก็สามารถนำมาใช้ได้ทันที
       
       ซึ่งวัตถุดิบที่พวกเรานำมาใช้นั้นสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ราคาเพียง 10-20 บาท ส่วนน้ำมะพร้าวบริสุทธิ์ที่นำมาใช้อาจมีราคาแพง แต่เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ พวกเราจึงคิดค้นวิธีการทำน้ำมะพร้าวบริสุทธิ์ได้เช่นกัน ซึ่งน้ำมะพร้าวบริสุทธิ์นั้นจะมีคุณประโยชน์มาก ยิ่งมาผสมกับรำข้าว จะทำให้กลิ่นหอมสดชื่น และช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ แถมมีวิตามินอี ที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ป้องกันฝา กระ และไม่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ชะลอริ้วรอยได้เป็นอย่างดี เพราะทำมาจากสมุนไพลพื้นบ้าน และสามารถเก็บไว้ได้นาน "
สุธาสิณี เอ่ยถึงสรรพคุณของผลิตภัณฑ์รำข้าว
       
       ด้าน รศ.ดร.ชาคริดา นุกูลกิจ อาจารย์ที่ปรึกษา กล่าวว่า แม้ว่าภาควิชาและสาขาของนักศึกษาผู้ผลิต อาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ทางคณะมีความต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาผลงานของนักศึกษา
       
       "เราพร้อมที่จะสนับสนุนให้นักศึกษามีพัฒนาตัวเอง ในด้านใด ด้านหนึ่งที่เป็นด้านดี เมื่อนักศึกษามีความสนใจและอยากที่จะคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา ถึงจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่นักศึกษาได้เรียนรู้ถึงกระบวนการทำงานเป็นทีม การสืบค้นข้อมูล การจัดทำแพคเก็จผลิตภัณฑ์ ถึงแม้ว่ายังไม่ใช่นักพัฒนาคอมพิวเตอร์ตามสาขาที่เรียนมาก็ตาม แต่เขาสามารถนำทักษะที่ได้เรียนรู้จากการทำผลงานชิ้นนี้มาประยุกต์ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตนเองและการเรียนต่อไป"
       
       ** สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนุบรี โทร 02-470-9850

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000042584

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/