วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

แก้วิกฤตล้นตลาด...สู่แปรรูป สละไร้เมล็ด "บรรจงฟาร์ม BJF"

วันที่ 04 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4102

แก้วิกฤตล้นตลาด...สู่แปรรูป สละไร้เมล็ด "บรรจงฟาร์ม BJF"


โดย อรวรรณ สัตตะ


เมื่อเห็นผลไม้ชนิดไหนราคาดี เกษตรกรเมืองจันท์ก็แห่แข่งกันปลูก เงาะราคาดีก็ปลูกเงาะ ทุเรียนราคาดีก็ปลูกทุเรียน สุดท้ายก็เจอปัญหาที่แก้ ไม่ตก คือผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งปุ๋ย น้ำมันราคาแพง ค่าแรงก็สูง หนี้สินพอกพูนทุกปี

ทว่าปัญหานี้มีทางออก โดยมีกรณีศึกษาจาก "สวนสละบรรจงฟาร์ม" อ.ขลุง จ.จันทบุรี

ชาวสวนยุคใหม่ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง วัย 65 ปี "บรรจง ธนอุดมนาน" เจ้าของสวนสละบรรจงฟาร์มเล่าถึงการปรับตัวและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสว่า

"เริ่มอาชีพทำสวนเมื่อปี 2518 ในพื้นที่ 35 ไร่ ปลูกทั้งเงาะโรงเรียนและทุเรียน ต่อมาก็ขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 100 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นทุเรียนพันธุ์กระดุม ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์เบาที่ออกต้นฤดูกาลจึงขายได้ราคาสูง แต่อีก 10 ปีต่อมา ราคาก็เริ่มตก และเจอโรคไฟทอปเทอร่า ปี 2537 จึงหันมา ทดลองปลูกสละ เพียง 3 ปีก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ราคาดีมาก จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากทุเรียนมาปลูกสละพันธุ์เนินวงทั้งหมดราว 300-500 ไร่ ทำให้เกิดปัญหาล้นตลาดทันที กำไรเริ่มน้อยลง"

จึงนำปัญหานี้มาปรึกษาหารือกับลูกชาย "สมเจตน์ ธนอุดมนาน" ซึ่งประยุกต์ใช้ความรู้จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กระทั่งมาสู่ข้อสรุปว่าต้องมีการ "แปรรูปสละ" ในรูปแบบของ

"สละลอยแก้ว" หรือสละไร้เมล็ดในน้ำเชื่อม จึงเริ่มทำเป็นอุตสาหกรรมครอบครัว

ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีจากตลาด โรงงานเล็กๆ จึงถือกำเนิดขึ้น พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพ ปรับรูปแบบภาชนะบรรจุ เน้นใช้วัสดุที่ดี รูปลักษณ์สวยงาม และมีสติ๊กเกอร์ติดไว้ภายใต้แบรนด์ "สวนสละบรรจงฟาร์ม" ตัวย่อ BJF และยื่นขอใบรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

บรรจงบอกว่า ใช้เวลาปลุกปั้นโรงงานประมาณ 3 ปี พื้นที่ปลูกทุเรียน 100 ไร่ ปัจจุบันกลายมาเป็นพื้นที่ปลูกสละถึง 250 ไร่ บางส่วนขายเป็นสละสด ได้ราคาไม่ดีนัก กำไรไม่มาก แต่ส่วนที่ทำสละ ลอยแก้ว หรือสละไร้เมล็ดในน้ำเชื่อมสามารถเพิ่มมูลค่าได้ ก็เอามาชดเชยรายได้ส่วนที่ขายเป็นผลสด

"สละไร้เมล็ดในน้ำเชื่อมของ บรรจงฟาร์ม (BJF) แตกต่างจากสละในน้ำเชื่อมทั่วไป เพราะสดใหม่ ไม่ใช้สารเคมี หรือสารกันบูด เครื่องปรุงที่ใช้คือเกลือ และน้ำตาล รสเปรี้ยวได้จากผลสละ ที่มีอายุ 8 เดือน รสชาติจึงหอม กรอบ หวานอมเปรี้ยว โดยมี 2 ขนาดให้เลือก ในราคาส่ง 20 บาท และ 50 บาท ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ" บรรจงเผย สูตรสละลอยแก้ว

นอกจากบรรจงฟาร์มจะประสบผลสำเร็จเพิ่มมูลค่าเพิ่มโดยการแปรรูปสละแล้ว การตลาดนับว่าสำคัญอย่างยิ่ง

"ช่วงแรกก็อาศัยตลาดและคอนเน็กชั่นจากร้านอาหารของเพื่อนๆ ในกรุงเทพฯ ต่อมาก็ขยายตามร้านอาหารภายใน จ.จันทบุรี รวมถึงขยายไปสู่ จ.ชลบุรี และพัทยา กระจายขึ้นห้างในท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ส่วนตลาดต่างประเทศก็มีออร์เดอร์ติดต่อเข้ามา ซึ่งอยู่ระหว่างติดต่อขอทำจีเอ็มพี (แนวทางการผลิตอาหารตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดี) และเอสซีเอ็มพี (ความปลอดภัยในอาหาร)"

บรรจงทิ้งท้ายว่า การแข่งขันเรื่องคุณภาพต้องไม่หยุดนิ่ง นอกจากทำสละไร้เมล็ดในน้ำเชื่อมแล้ว ทางโรงงานยังทำสละกวน และกำลังคิดค้นที่จะแปรรูปอย่างอื่นด้วย แต่อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจด้านคุณภาพก่อนนำออกมาวางจำหน่าย


หน้า 21
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02phu03040552&day=2009-05-04&sectionid=0211
 


Hotmail® has ever-growing storage! Don't worry about storage limits. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
ต้องรู้เท่าทันในการรับรู้ข่าวสารจากทุกแหล่งข่าว/ FACT - Freedom Against Censorship Thailand กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย http://facthai.wordpress.com/