วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 |
ขณะที่การขายหุ้นธนาคารกรุงไทยและธนาคารนครหลวงไทยที่ถือครองอยู่ออกไปจะมีผลกับตลาดอย่างมาก
ปัจจุบันกองทุนฟื้นฟูฯ ถือหุ้นในธนาคารกรุงไทยอยู่ 6,184 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 55.5% และถือครองหุ้นในธนาคารนครหลวงไทยอยู่ 1,005 ล้านหุ้น คิดเป็น 47.58%
"เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของกระทรวงการคลังว่าจะขายหุ้นธนาคารทั้ง 2 แห่งหรือไม่ และหากจะขายจะให้กองทุนฟื้นฟูฯ ขาย หรือกระทรวงการคลังจะรับโอน มาขายเอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง การศึกษาร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังและกองทุนฟื้นฟูฯ เพราะถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก" แหล่งข่าวเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ส่วนหนึ่งมีความ เห็นเบื้องต้นว่า ควรโอนทรัพย์สิน ทั้งหมดไปให้กระทรวงการคลังจัดการเอง เพราะทรัพย์สินทั้งหมดถือว่าเป็นของกระทรวงการคลัง ของประเทศอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาไปฝากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่านกองทุนฟื้นฟูฯ เป็นคนบริหารเท่านั้น
นอกจากนี้ กองทุนฟื้นฟูฯ ยังไม่ต้องการให้เกิดปัญหาเหมือนการขายหุ้นธนาคารไทยธนาคารให้กับธนาคารของมาเลเซีย จนถูกกระทรวงการคลังสมัยรัฐบาลที่ผ่านมาตั้งกรรมการสอบว่าการขายหุ้นเพิ่มทุนทำให้รัฐเกิดความเสียหาย
ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้มีปัญหาในการขายทรัพย์สินรอการขาย เหมือนกรณีของที่ดินรัชดา ภิเษก แก่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของทรัพย์สินรอการขายขณะนี้ไม่น่าใช่ปัญหาสำคัญ เพราะเหลืออยู่ในจำนวนที่น้อยมาก แต่เรื่องที่อ่อนไหวมากอยู่ที่การขายหุ้นธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ งบดุลของกองทุนฟื้นฟูฯ งวด 30 ก.ย. 2551 มีสินทรัพย์ 2.26 แสนล้านบาท รายการที่สำคัญประกอบด้วย ทรัพย์สินหมุนเวียน 2.91 หมื่นล้านบาท เงินลงทุนในบริษัท 9.85 หมื่นล้านบาท สิทธิ รับชำระหนี้ตามโครงการช่วยเหลือ 9.33 หมื่นล้านบาท และลูกหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน 5,067 ล้านบาท
แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับรมว. คลัง เปิดเผยว่า หุ้นของธนาคารนครหลวงไทยนั้นจะขายออกอย่างแน่นอน แต่ในส่วนของธนาคารกรุงไทยนั้นกระทรวงการคลังจะถือไว้ต่อไป เพราะเป็นเครื่องมือรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้
http://www.posttoday.com/finance.php?id=46842
Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น